5 สโมสรชั้นนำในพรีเมียร์ลีกอย่าง แมนน ยูไนเต็ด, แมนฯ ซิตี้, ลิเวอร์พูล, อาร์เซนอล และ เชลซี เตรียมหารือครั้งใหญ่ถึงแนวความคิดในการร่วมมือกันเพื่อจัดตั้งการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์รายการยุโรปรายการใหม่ เพื่อแยกตัวจาก ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก ในอนาคต

โดยการหารือที่กลายเป็นประเด็นใหญ่ในวงการฟุตบอลอังกฤษวันนี้ กำลังถูกจับตามองเป็นอย่างมากว่าอาจจะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการฟุตบอลยุโรป หลังมีรายงานว่า ทีมผู้บริหารของ 5 สโมสรชั้นนำในพรีเมียร์ลีก คือ แมนฯ ยูไนเต็ด โดย เอ็ด วูดเวิร์ด รองประธานสโมสร, แมนฯ ซิตี้ โดย เฟราน โซริอาโน ประธานบริหารของสโมสร, เชลซี โดย บรูซ บัค ประธานสโมสร, อาร์เซนอล โดย อิวาน กาซิดิส ซีอีโอ และ ลิเวอร์พูล โดย เอียน อายร์ ประธานฝ่ายบริหาร จะเข้าหารือร่วมกับ สตีเฟน รอสส์ มหาเศรษฐีชาวอเมริกันที่โรงแรม ดอร์เชสเตอร์ ในลอนดอนสัปดาห์นี้ เพื่อถกร่วมถึงความเป็นไปได้ในการนำทีมจากอังกฤษเข้าร่วมกับทีมชั้นนำในยุโรปเพื่อจัดตั้งรายการ ยูโรเปียน ซูเปอร์ ลีก และแยกตัวออกจากการแข่งขัน ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก ซึ่งครองความเป็นหนึ่งในการจัดการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์รายการสโมสรยุโรปถ้วยใหญ่สุดมานาน

ทั้งนี้ รายงานจาก มิร์เรอร์ และ เดอะ ซัน เผยว่า ยังมีความเป็นไปได้ที่สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งยุโรปทีมอื่นอย่าง บาร์เซโลนา, เอซี มิลาน, เรอัล มาดริด บาเยิร์น มิวนิค, โอลิมเปียกอส และ ฯลฯ จะส่งตัวแทนเข้าร่วมหารือในครั้งนี้ เพื่อ 'ปลดแอก' จากกฏการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรยุโรปรูปแบบเดิมที่กำหนดขึ้นโดย ยูฟา ซึ่งมีกฏค่าสัมประสิทธิ์ที่ทำให้หลายๆ สโมสรต้องเสียรายได้มหาศาลจากการถูกตัดสิทธิ์ โดยเฉพาะทีมจากพรีเมียร์ลีกที่กำลังอยู่ในสถานการณ์เสี่ยงที่จะโดนหั่นโควต้าเข้ารอบจาก 4 ทีม เหลือเพียง 3 ทีม จากผลงานที่ไม่ดีนักในรอบแบ่งกลุ่มและรอบน็อคเอาท์ในช่วงฤดูกาลหลังๆ

โดยแผนการหารือครั้งนี้ เพื่อขอความเห็นชอบร่วมในการจัดตั้งสมาคมจัดการลีกขึ้นมาใหม่ โดยเดิมทีเคยมีความคิดที่จะตั้งกลุ่มในรูปแบบของสหพันธ์ที่ใช้ชื่อว่า อีซีเอ (ECA) โดยมี เอซี มิลาน และ บาเยิร์น มิวนิค เป็นตัวตั้งตัวตีกมาก่อน เพื่อขอดูแลการจัดการที่รวมถึงลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดทางโทรทัศน​์ โดยครั้งนั้น มีรายงานว่า ลิเวอร์พูล, แมนฯ ยูไนเต็ด และ เชลซี เคยให้ความสนใจพร้อมจะเข้าร่วม เนื่องจาก เอซี มิลาน ต้องการโอกาสในการส่งทีมเข้าร่วมแข่งขันในฟุตบอลสโมสรยุโรป หลังจากพวกเขาไม่สามารถผ่านเข้ารอบควอลิฟายใน ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก ตั้งแต่ปี 2013

โดยทางด้าน สตีเฟน รอสส์ มหาเศรษฐีอเมริกันผู้ถือครองทรัพย์สินราว 4.8 พันล้านปอนด์ และเป็นเจ้าของทีม ไมอามี ดอลฟินส์ ทีมดังใน NFL ก็พร้อมจะเข้ามาสนับสนุนเงินทุนและเป็นที่ปรึกษาในครั้งนี้ 

ซึ่งหากการผลักดันให้มีการรวมกลุ่มก่อตั้งการจัดการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์รายการยุโรปรายการใหม่สำเร็จ ก็น่าจะเป็นปรากฏการณ์ที่สั่นสะเทือนวงการฟุตบอลครั้งประวัติศาสตร์ และอาจส่งผลดีต่อสโมสรที่เข้าร่วมซึ่งจะไม่ต้องสูญรายได้จากการที่ทีมไม่ได้เข้าไปเตะ ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก และจะยังเป็นการการันตีโอกาสเข้าร่วมแข่งขันของทีมอย่าง ลิเวอร์พูล และ แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งสถานการณ์ในการไปเตะ ชปล. ฤดูกาลหน้าก็ค่อนข้างริบหรี่ แต่ทั้งนี้ก็น่าจะยังคงต้องประเมินผลดีและผลเสียของการก่อตั้งรายการชิงแชมป์รายการใหม่กันต่อไป