​ฟุตบอล ยูโรปา ลีก ฤดูกาล 2015/16 รอบ 16 ทีม เลกแรก

ลิเวอร์พูล v แมนฯ ยูไนเต็ด

สนาม แอนฟิลด์

เช้าวันศุกร์ที่ 11 มี.ค. เวลา 3.05 น.


สถิติเฮดทูเฮดก่อนเกม

ผลงานการพบกัน 5 นัดหลังสุด

แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะรวด 5 นัด

ฟอร์ม 5 นัดหลังสุด

ลิเวอร์พูล ชนะ 3 เสมอ 2 (เสมอ แมนฯ ซิตี้ 1-1 ก่อนแพ้ดวลจุดโทษ แคปิตอล วัน คัพ)

แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 4 แพ้ 1

เปอร์เซนต์ชนะในการพบกัน

ลิเวอร์พูล 48.24%

แมนฯ ยูไนเต็ด 52.87%

สถิติการพบกันในฟุตบอลชิงแชมป์รายการ (ไม่รวม คอมมูนิตี ชิลด์)

ลิเวอร์พูล ชนะ 7 ครั้ง

แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 11 ครั้ง


แมทช์ติดดาวคู่หยุดโลกครั้งประวัติศาสตร์ของ 2 ทีมคู่แค้นแห่งอังกฤษที่เพิ่งจะโคจรมาพบกันเป็นครั้งแรกในรายการยุโรป ซึ่งเดิมทีทั้งสองทีมถูกคาดหมายว่า น่าจะเป็นคู่ชิงชนะเลิศในรายการนี้ หลังจากทีมปีศาจแดงตกลงมาจากรอบแบ่งกลุ่ม ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก

แน่นอนว่าการเจอกันนัดนี้ จะต้องมี 1 ทีมที่ตกรอบ และทีมที่เข้ารอบก็มีโอกาสสูงในการมองถึงนัดชิงชนะเลิศได้ไม่ยาก แต่จะเป็น 'หงส์แดง' หรือ 'ปีศาจแดง' อยู่ที่ศึกใหญ่ในครั้งนี้ ซึ่ง แมนฯ ยูไนเต็ด จะได้เปรียบในการออกไปเป็นทีมเยือนในเลกแรก แม้สถิติที่ผ่านมาในการออกไปเยือนในเกมยุโรปถือว่าทำได้ย่ำแย่พอสมควรไม่ชนะใครในเกมเยือนรายการยุโรปถึง 4 นัดติดต่อกันและแพ้ไปถึง 3 นัด ทว่า ลิเวอร์พูล แม้จะยังไม่แพ้ใครใน ยูโรปา ลีก ฤดูกาลนี้ แต่ก็หนักไปทางเสมอและเป็นทีมต้องลุ้นถึงฏีกามากที่สุดของปีนี้ด้วย

แต่สถิติที่ แมนฯ ยูไนเต็ด พอจะดึงมาข่ม ลิเวอร์พูล ได้ ก็คือตลอดการคุมทีมพบ ลิเวอร์พูล 4 นัด หลุยส์ ฟาน กัล มีสถิติ 100% ชนะรวดทั้ง 4 นัด เกมนี้จึงมีไฮไลท์น่าจับตามองมากมาย นอกเหนือจากการเป็นเกม 'แดงเดือด' นัดประวัติศาสตร์กับการพบกันเป็นครั้งแรกในเวทียุโรป


ลิเวอร์พูล

เยอร์เกน คลอปป์ มั่นใจจัดเต็มทุกขุมกำลังในนัดนี้แม้จะไม่มี 2 มิดฟิลด์ตัวเก๋าที่สำคัญอย่าง ลูคัส เลวา ที่เจ็บยาว และ เจมส์ มิลเนอร์ ที่มีอาการบาดเจ็บจากเกมล่าสุดที่เพิ่งจะถูกไล่ออกในเกมบุกไปชนะ คริสตัล พาเลซ 2-1 แต่ตัวเลือกที่วางไว้ในการทำประตู ก็จะมี โรแบร์โต ฟิร์เมียโน เจ้าของสถิติมีส่วนร่วมในการทำประตูมากที่สุดของพรีเมียร์ลีกปี 2016 เป็นแกนในแนวรุก ส่วนกองหน้าก็มีหลายฝ่ายแนะให้เป็นคิวของ แดเนียล สเตอร์ริดจ์ แม้ คริสเตียง เบนเทเก เพิ่งจะโชว์แสบในการเรียกจุดโทษให้ทีมชนะ พาเลซ ในนัดล่าสุดมาก็ตาม

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะได้ลงสนาม : มินโญเลต์, ไคลน์, ลอฟเรน, ซาโก, โมเรโน, เฮนเดอร์สัน, ชาน, ลัลลานา, ฟิเมียร์โน, คูตินโญ, สเตอร์ริดจ์


แมนฯ ยูไนเต็ด

ปัญหานักเตะบาดเจ็บที่เคยสร้างความปวดหัวให้ หลุยส์ ฟาน กัล เริ่มดีขึ้นจากอัพเดทล่าสุดที่ได้ทั้ง อันโตนิโอ วาเลนเซีย และ บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ กลับมาซ้อมกับทีมได้แล้ว  แม้จะยังคงไม่มี เวย์น รูนีย์ กัปตันทีม ขณะที่ เจสซี ลินการ์ด จะไม่ได้ลงสนามแน่นอนในเกมคืนนี้เนื่องจากติดโทษสะสมใบเหลือง  

แต่แผงแนวรุกก็น่าจะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเกมที่เพิ่งจะบุกไปแพ้ เวสท์บรอม 1-0 แม้ ฆวน มาตา จะรับใบแดงในเกมล่าสุด แต่ก็ไม่มีผลใดๆ ในเกมนี้ และเจ้าหนู มาร์คุส แรชฟอร์ด จะต้องถูกจับตามองแน่นอนหลังจากแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวในเกมประเดิมชุดใหญ่นัดแรกด้วยการทำ 2 ประตูถล่ม มิดตีลลันด์ 5-1 ในรอบที่แล้ว และอาจจะดังเป็นพลุขึ้นมาอีกครั้งหากลงมาทำประตูหงส์แดงในเกมคืนนี้

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะได้ลงสนาม : เด เคอา, ดาร์เมียน, สมอลลิง, บลินด์, โรโฮ, ชไนเดอร์ลิน, เอร์เรรา, มาร์กซิยาล, มาตา, เมมฟิส, แรชฟอร์ด